วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ขยายเครือข่ายเกษตรกรต้นแบบมันสำปะหลัง

ได้มีโอกาสร่วมงานเสวนาการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตมันสำปะหลังเฉพาะพื้นที่ ผ่านเกษตรกรต้นแบบ: นายสม ทะนาสินธิ์ วันที่ 26 สิงหาคม 2552 ที่แปลงมันสำปะหลัง มีเกษตรกรมาร่วมงานประมาณ 100 คน มาจากเครือข่ายของลุงสมเอง และจากมหาสารคามอีกจำนวนหนึ่ง งานนี้เกษตรกรเป็นผู้จัดงานเอง ทั้งนัดเพื่อน ๆ ในเครือข่าย หาเต้นท์ เก้าอี้ ขุดหัวมันในแปลงบางส่วนไว้ก่อน และแจ้งข่าวแก่เกษตรกรที่อยุ่มหาสารคามซึ่งปีที่แล้วก็มาดูไปแล้วครั้งหนึ่ง เกษตรกรในเครือข่ายของลุงสมปีที่ผ่านมาก็นำเทคนิควิธีการของลุงสมไปใช้ บางรายก็ทำได้ดีผลผลิตเพิ่มขึ้น แต่ก็มีบางรายที่ทำได้ไม่ดีแต่ก็บอกกับผู้มาร่วมงานว่าปีนี้จะขอแก้ตัวใหม่


ปีนี้ได้ผลผลิต 15 ตัน/ไร่ เปอร์เซ็นต์แป้ง 28.7%

หน่วยงานราชการมาสนับสนุนให้สามารถจัดงานได้ราบรื่น นำอาหารมาเลี้ยง ส่วนนิทรรศการ และเชิญผู้ใหญ่มาเป็นสักขีพยานในการเก็บเกี่ยวผลผลิตครั้งนี้ ซึ่งปีนี่เป็นที่น่ายินดีเช่นกันที่เจ้าบ้านอย่างนายอำเภอมาร่วมงานด้วย



ปีนี้เน้นการปฏิบัติให้เห้นจริง มีการสาธิตเทคนิดการปลูก และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เนื่องจากว่าที่มหาสารคามปลุกมันแบบปักตรงไม่ได้ต้องเหยียบให้มิดดินไม่เช่นนั้นจะโดนปลวกกิน ลุงสมแนะวิธีการแก้ปัญหาปลวก และเทคนิคในการปักท่อนพันธุ์ เช่น ระยอง 7 ลงหัวรอบมักจะถอนยากอาจปักท่อนพันธุ์ให้เอียงเล็กน้อย

เกษตรกรที่มาร่วมงาน และรูปหมู่ของเกษตรกรจากมหาสารคาม ปีหน้าเจอกันใหม่




วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2552

weather station at Chengmai Field crop research center


9 กค 52 ติดตั้งค่าในการตรวจวัดที่ศูนย์สารสนเทศ และทดสอบการสื่อสารระยะไกลด้วย GSM modem เสร็จแล้วก็ให้ผู้ติดตั้งนำไปติดตั้งที่เชียงใหม่ นัดเลือกสถานที่กับ พี่ ๆ ที่ศวร.เชียงใหม่แล้ว ก็ได้ที่กลางนา จากบ้านพี่โตสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล เป็นตำแหน่งที่ติดตั้งบนถนนที่มีหญ้าปกคลุม ก็คล้ายสนามหญ้า ปรากฏว่าสามารถติดตั้งได้เลยในวันที่ 12 กค. ช่วงสาย ๆ มีเวลาให้ตรวจสอบ และนัดพี่วันชัยมาตรวจความเรียบร้อยวันที่ 21 อุปกรณ์สนาม กุญแจอยู่ที่พี่โต ศวร.ชม. เอกสารการเชื่อมต่อ 1 แผ่น ส่วนที่เหลือเอากลับศูนย์กรุงเทพ ลอง test อีกครั้งวันที่ 31 ปรากฏว่า โทรแจ้งพี่โตช่วยเปลี่ยนให้ด้วย แต่พี่โตจะเปลี่ยนให้หรือยัง แต่ช่วงนี่ยังไม่ได้ปลูกข้อมูลความชื้นในแปลงยังไม่จำเป็น

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2552

โนนสูง


ได้มีโอกาสไปเยี่ยมศวพ.โนนสูง บังเอิญตรงกับวันที่เขากำลังจัดงานเปิดศูนย์และ field day ได้เห็นก็รู้สึกแปลกใจ มีชื่อถนน"เกษตร" อยูในอำเภอ และก็เป็นเส้นทางเดี่ยวกับที่ผ่านหน้าศูนย์ แสดงว่าเดิมหน่วยงานที่อยู่ตรงนี้ต้องยิ่งใหญ่ไม่ธรรมดา พวกเราคนกรมที่ต่ำกว่า 40-45 อาจไม่ค่อยรู้เรื่องราว เดิมที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของสถานีวิจัยพืชไร่โนนสูง ทำงานวิจัยเกี่ยวกับพืชไร่ เดิมก็ปอเป็นหลัก เพราะมีบ่อแช่ปออยู่ให้เห็นร่องรอย ปี 2478 เริ่มก่อตั้ง พิธีกรบอกว่าอาจารย์หลวงอิงค์ก็เคยมาทำงานอยู่ และบ้านพักของท่านก็ยังอยู่ ผิดกับบ้านพักหลาย ๆ หลังที่ผุพังเหลื่อแต่เสาปูน เพราะไม่มีการใช้งานมานาน เนื่องจากก่อนหน้าที่จะเลิกการใช้งานพื้นที่แห่งนี้มีน้ำท่วมติดต่อกัน 3 ปี กรมวิชาการเกษตรจึงย้ายหน่วยงานไปที่ศูนย์วิจัยพืชไร่เพชรบูรณ์ แต่การปรับโครงสร้างของกรมรอบใหม่จึงกลับมาขอใช้พื้นที่นี้อีก แต่คงเหลือพื้นที่น้อยลง เนื่องจากเป็นที่ตั้งของหน่วยงานอื่น ๆ ไปแล้ว ใช้เวลา 2 เดือนในการเข้ามาฟื้นฟู ก็ขอเป็นกำลังใจสำหรับรุนบุกเบิกยุคที่ 2

วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2552

data logger

ปลายเดือนพฤษภาคมได้โหลดข้อมูลภูมิอากาศที่เชียงใหม่ ลุ้น ๆ อยู่ว่าแบตตารี่จะหมดหรือเปล่าเพราะว่าใช้ถ่านธรรมดาไม่ได้ใช้ถ่านอัลคาไลค์ ปรากฎว่ายังทำงานอยู่และสามารถโหลดข้อมูลได้ตามที่ตั้งไว้ แต่การติดตั้งมีปัญหากับข้อมูลปริมาณน้ำฝนที่ไม่ได้ตรวจสอบการติดตั้ง sensor น้ำฝน จึงวัดค่าไม่ถูกต้อง จึงติดตั้ง sensor น้ำฝนใหม่ ซึ่งต้องใช้ maintainance instrument ด้วย แล้วทดสอบแบบ realtime งานนี้ต้องรบกวนนายช่างใหญ่วินัย ให้บริการทางโทรศัพท์ คงเหลือแต่ปัญหาการเปลี่ยนถ่าย เพราะว่าน่าจะมีอายุได้อีกไม่นาน ถ่านอัลคาไลค์ 1 ปีใช้ได้สบาย ๆ แต่ไม่เคยลองทดสอบว่าจริงๆ แล้วมีอายุการใช้งานนานเท่าไร

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2552

ยางพาราภาคเหนือ

แต่งกิ่งสูงเสียดฟ้า บางส่วนค้ำยันเพราะเอน ล้ม

ระหว่างทางไปห้วยฮ่องไคร้เจอแปลงยางพาราแปลงหนึ่งอย่างไม่ตั้งใจ เห็นเขาตัดแต่งกิ่งยางสูงมากกก...จนต้องใช้บันไดช่วยแต่ยังตัดไม่หมดแปลง เห็นแล้ววิญญาณคนยางก็สิง ทนไม่ได้ต้องบอกเพื่อนที่มาด้วยให้หยุดรถคุยกับเจ้าของแปลงหน่อย เพราะถ้าไม่บอกคิดว่าเขาต้องจัดการส่วนที่เหลือแน่นอน หยุดรถเจอได้เดินดูต้นยางและคุยกับเจ้าของก็เป็นจริงดังคาด ยางพาราย่างเข้าปีที่ 4 เกษตรกรปลูกก่อนที่ทางราชการมีโครงการสนับสนุนให้ปลูกยางในภาคเหนือ แม่เลี้ยงวัวอยู่ในสายยางบอกว่าลูกบ่าวจะตัดแต่งกิ่งหม่ทั้งแปลงเพราะว่ายางบางต้นถูกลมพัดล้มซึ่งก็เห็นเป็นบางต้นที่เอนจากลม การค้ำยันและแต่งกิ่งต้นที่เป็นปัญหาจำเป็นต้องทำซึ่งเราก็เห็นด้วย แต่การเหมารวมป้ญหากลัวลมจะทำให้ทั้งแปลงจึงจะแต่งกิ่งทั้งแปลงไม่จำเป็นและอาจเป็นผลเสียต่อต้นยางได้
  • ยางที่ตัดแต่งสูงเกินกว่าช่วงกรีดไม่จำเป็น ปกติเราเริ่มกรีดที่ระดับ 150 ซม. การตัดแต่งกิ่งควรหยุดที่ความสูงระดับมือเอื้อมถึงก็เพียงพอ เมื่อยางใหญ่ยางจะปลิดกิ่งเองได้
  • การตัดแต่งเฉพาะต้นที่มีปัญหาล้ม เอนจำเป็น ช่วงกรีดที่ตั้งตรงช่วยให้การกรีดทำได้สะดวก
  • การตัดแต่งกิ่งสูงเกินไปทำให้ยางเติบโตช้า เนื่องจากพื้นที่ใบที่ใช้ในการปรุงอาหารของพืชลดลง

ผู้เกี่ยวข้องต้องเข้าไปดูแลหน่อยแล้ว เบื้องต้นให้โทรศัพท์พูดคุยกับคนยางแท้ ๆ และให้เบอร์โทรแล้ว แล้วสวนอืนที่ไม่ได้ไปเจอจะเป็นอย่างไร....



แถมด้วยภาพสวย ๆ เกษตรกรปลูกเสาวรสสวยมากเลยถ่ายเก็บไว้

วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2552

เรื่องเล่า

ได้มีโอกาศเจอเพื่อน ๆ พูดคุยไปตามเรื่องไม่รู้ว่ามาถึงเรื่องเกี่ยวกับเมืองนานได้อย่างไร ว่าปีนี้เผาไร่กันมาก พื้นที่ปลูกข้าวโพดปีนี้ยังมาก ตั้งแต่ที่ราบยันบนดอย ซึ่งก่อนหน้าก็บ่นกับเพื่ิอนชาวน่านว่า น่านมีแต่ภูเขาหัวโล้นด้วยว่าเคยนั่งเครื่องบิน และมองเห็นภูมิประเทศในมุมกว้าง หากเมื่อมึโอกาศควรจะมองหาระบบ หรือพืชที่เหมาะสมและสามารถทำรายได้ ลองนำความรู้ ประสบการณ์ในการวิเคราะห์ระบบนิเวศเกษตรมาใช้และทำให้ได้จริง ๆ อยากเห็น....เมื่อเร็ว ๆนี้ลุดนัดไปเป็นวิทยากรอบรมชาวบ้านในโครงการของจังหวัดได้มีโอกาศเดินทางไปหลายพื้นที่ใน 10 วันที่ไปอบรมพื้นที่ที่มีศักยภาพสำหรับกาแฟ ชา พืชทำเงินของพื้นที่ ก็มีคำถามติดอยู่ อยากรู้ว่ามีพื้นที่ที่สามารถพัมนาให้ปลูกพืชเหล่านี้ได้สักเท่าไร.... เพราะว่าปลูกกาแฟให้ไดดีต้องมีป่าหรือไม้บังร่ม ซึ่งจะช่วยให้สามารถปรับสภาพทำการเกษตรที่ถาง และเผา ลดลง... เช่นเดียวกับที่ภาคอิสานที่นำยางพาราไปปลูกยางพาราช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมวิถีการเกษตรของชุมชนได้แน่นอน ยางพาราไม่ชอบไฟ การเผาในพื้นที่ข้างเคียงควรจะลดลง หรืทำได้ต้วยความระมัดระวัง เพราะหากพลังเผลออาจเสียหายต่อต้นยางได้ ยางพาราเป็นพืชที่มีราคา เป็นต้นไม่ที่เจ้าของต้องดูเลรักษา ..... ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ที่ยางอาจทำความเสียหายคงต้องละไว้ก่อน แต่ต้องมีคนคิดต่อว่าต่อไปจะทำอย่างไร ยางมีอายุที่จำเป้นต้องรื้อและปลูกแทนอยู่ ....ฝากไว้คิดต่อ

วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2552

Smart farming

Smart farming ถึง Precision farming การถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรสู่ภาคปฏิบัติใน SAAD Kibbutz ซึ่งมีแปลงผลิตพืชขนาดใหญ่ ผู้เขียนได้มีโอกาสเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น และปฏิบัติได้จริงในคิบบุชแห่งนี้ จริง ๆ ก็เคยเห็นในเว็บอยู่หายครั้งแต่ไม่ได้เข้าไปศึกษาจริง ๆ ในไทยก็มีงานของนักวิจัยในลักษณะนี้เช่น กันและสามารถออกสู่การผลิตจริงในแปลงด้วย หากสืบค้นด้วยคำสำคัญนี้ ที่นี่ได้เห็นการใช้เครื่องจักรกลแทรกเตอร์ Combine harvester ซึ่งติดตั้งเครื่องมือ GPS และมีส่วนควบคุมที่สามารถวัดปริมาณผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ในแต่ละหน่วยของพื้นที่และเก็บเป็นฐานข้อมูลในรูปแบบของ GIS ซึ่งระดับการให้ผลผลิตนี้จะใช้เป็นข้อมูลสำหรับการให้ปุ๋ยในฤดูต่อไป ซึ่งเครื่องปลูกที่ติดตั้ง GPS จะเรียกใช้ข้อมูลผลผลิตมากำหนดปริมาณปุ๋ยที่ใส่ในแต่ละตำแหน่งของแปลงปลูกพืชนั้น ๆ รวมทั้งใช้ข้อมูลดาวเทียมประเมินความสมบูรณ์ของพืชในฤดูนั้น ๆ ประกอบการตัดสินใจด้วย...น่าทึ่งจริง ๆ