วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

สมุยปลายเมษายน

มาสมุย 30 เมย 56 มาทางหน้าทอน ภาพแรกที่เห็นสมุยคือเห็นสมุยเขียวขึ้น มะพร้าวสวยขึ้นใบใหม่ที่ออกสีเขียวไม่หงอกแล้ว น้องที่อารักขานำแตนเบียนไปไว้ที่เกษตรอำเภอ ทีมเราก็นำส่วนหนึ่งไปช่วยปล่อยด้วย เพราะพวกเราน่าจะเข้าถึงพื้นที่ได้มากกว่า และทั่วเกาะกว่า แล้วพวกเราก็ไปสำรวจแมลงมะพร้าวอยู่แถวบ่อผุด อากาศร้อนมาก ก็สำรวจกันจนมองไม่เห็นจะกลับมาทางหน้าเมืองก็เหฌนว่าทางแม่น้ำ อ่างทองมีร่องรอยฝนตก วันต่อมาได้พบกับทีมที่สำรวจอยู่แถวนั้ก็บอกว่าฝนตกหนัก แสดงให้เห็นชัดเจนว่าฝนตกไม่ทั่วเกาะแต่ตรงไหนก่อน บริเวณไหนหลัง  มากน้อย คงอยากให้คนเกาะสมุยช่วย
วันที่ 1 พค.ได้พบกับเจ้าถิ่นวงใหญ่ มีประธานชุมชนหมู่ 1 เกษตร ที่ปรึกษา เป็นคนรักชุมชน และสมุย ทราบเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเทศบาลเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอยู่ที่สมุยนี้เอง ขอบเขตครอบคลุมทั้งเกาะ ดูเหมือนเกษตรอำเภอ และเทศบาลยังทำงานเข้าขากันไม่ดีนัก เกาะนี้ต่างจากที่อื่นๆที่ไม่มีผู้ใหญ่บ้าน กำนัน แต่จะมีประานชุมชน และกรรมการมาทำหน้าที่แทน ซึ่งผู้ทำหน้าที่แทนเหล่านี้ไม่มีค่าตอบแทนเหมือนผู้ใหญ่บ้าน หรือกำนัน เป็นงานอาสาสมัคร
ดีใจที่คนสมุยที่รักท้องถิ่นยังมีอยู่อย่างน้อยก็ในกลุ่มที่ได้นั่งพูดคุยกัน ความไม่เข้าใจ ไม่ประชาสัมพันธ์ทำให้ชาวบ้านไม่รู้ ชาวบ้านยินดีเป็นส่วนหนึ่งหรือเป็นส่วนช่วยในการแก้ปัญหาในชุมชน โดยเฉพาะมะพร้าวที่เกาะสมุย พวกเราก็สนใจว่าจะใช้ช่องทางนี้เป็นช่องทางในการสื่อสาร การส่งต่อความรู้ การกระจายแตนเบียนให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย

มะม่วงที่เกาะสมุย ลูกเล็ก กินสุกได้กลื่นหอมคล้ายกระร่อน เขาเต่าอีกชนิดหนึ่ง ผลไม่พื้นเมืองเพิ่งออกดอก เรียกกันว่าขี้กวาง ไว้เป็นลูกแล้วจะมาดูใหม่

2 พค ข้ามเขามาทางซอยแม่น้ำ 1 ซึ่งครั้งก่อน ๆ ชาวบ้านบอกว่าทางไม่ดี เลยไม่ได้ไป เรียกว่าดูรถเป็นหลักก่อน ครั้งนี้รถดีเลยขึ้นช้ามเขาที่อยู่กลางเกาะสมุยไป ออกที่ละไม บรรยากาศดีเหมือนอยู่ป่า หล้วเพียงว่าผืนป่าเหล่านี้ยังคงอยู่ ขาขั้นเป็นสวนมะพร้าวผืนใหญ่ มีพวกเราไปวางกับดักด้วงแรดด้วย และเห็นว่าตืดดีมาก ทางลงก็เป้นสวนผลไม่ เช่น ทุเรียน มังคุด ลางสาด รวมทั้งมะพร้าวด้วย และไม่ลิมที่จะปล่อยแตนเบียน

วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2556

ฝนเริ่มตกแล้ว

วันจันทร์น้องๆ บอกว่าออกเดินทางจากกรุงเทพมาผ่านปากช่องฝนตกหนัก แต่มาถึงขอนแก่น เลยร้อนมากฝนก็ไม่ตก สัญญานเริ่มฤดูปลูกเริ่มแล้วกระมัง มาเลยวันที่ 24 เมย เย็นนั้นฝนตกมากจากเหนือสุดมาถึงภูกระดึง แต่ที่ตกมาก ๆ น่าจะถึงเมือง แต่เอราวัณไม่ตกเท่าที่ควรดินยังไม่เปียก(โทรไปถามวิษณุ)

วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556

ไม้ผลหลายชนิดไม่ออกดอก

ฟังข่าวปีนี้ลิ้นจึ่ที่มะขามเฒ่า นครพนมไม่ออกดอก ก็ทำนองเดียวกับทางอัมพวา หากสังเกตุปีนี้มะม่วงก็น้อย ต้นสำเนียงพืชท้องถิ่นไม่ออกดอกติดผล

วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556

เพลี้ยจั๊กจั่นมะม่วง

วันเสาร์ที่ 6 เมษายน 56 ที่สุพรรณร้อนมาก ตอนกลางวันเพลี้ยจั๊กจั่นมะม่วงมาเกาะที่มุ้งลวด ประตู หน้าต่างบ้านมากเป็นพิเศษ เกิดอะไรขึ้น วันอื่น ๆ ก็ไม่เห็นมาเกาะเลย

วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ระหว่างนั่งเฟอร์รี่กลับจากสมุย

สภาพแวดล้อมกับการระบาดของแมลงน่าสนใจ เกาะสมุยมีมะพร้าวเป็นพืชที่ดึงดูด มาครั้งนี้มาสำรวจติดตามหลังจากมีอะไรลงไปในพื้นที่บ้างแล้ว ก่อนหน้านี้มีการส่งแตนเบียนมาปล่อย สักประมาณ 1 เดือนแล้ว เป็นที่สังเกตว่าที่ต.แม่น้ำ ที่มีปัญหาหนอนหัวดำมาก มาครั้งนี้บางส่วนลดน้อยลง ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากฝน และอาจเพราะแตนเบียนด้วย?? ที่น่าสนใจคือสมดุลธรรมชาติ โดยปกติแมลงที่ระบาดมักไม่ใช่แมลงท้องถิ่น พอมาเจอสภาพที่เหมาะสมจึงเกิดการระบาด เมื่อเวลาผ่านไป อาจมีศัตรูธรรมชาติมาควบคุมและเพิ่มประชากร แต่อาจต้องใช้เวลา หากมีแมลงมีแมลงที่สามารถจะควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักจัดการ/นักวิชาการก็จะนำมาใช้ แมลงในท้องถ่นก็เช่น หนอนหน้าแมว เป็นหนอนร่านชนิดหนึ่ง (Darna furva) ที่สำคัญในปาล์มม้ำมัน ซึ่งระบาดรุนแรงคั้งแต่ชุมพรถึงสงขลาประมาณหมื่นกว่าไร่ จากปรากฏการณ์เอนิโญ นานประมาฌครึ่งปี แล้วก็หายไป ฝนตกมากน่าจะมีส่วนช่วยลดประชากรลง บีทีน่าสนใจในสภาพที่ฝนดีน่าจะตรวจสอบดูว่าบีทีมีอยูในหนอนที่ตายไหม การวิเคราะห์ข้อมูลน่าจะต้องการการเกษตรข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้น เช้น อุณหภูมิ ความชื้นที่ยอดมะพร้าว

วันอังคารที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2556

หนอนหัวดำมะพร้าว

เพิ่งได้ทำความรู้จักหนอนหัวดำมะพร้าวไม่นานมานี้ ประมาณปลายปีที่แล้วที่กุยบุรี แม้จะทำงานทางด้านการเกษตรแต่ก็เหมือนคนนอกวงการไม่ทราบสถานการณ์หรือทราบแต่ก็ไม่ตระหนักถึงความรุนแรง ความเสียหายที่จะเกิดขึ้น หากจำได้ประมาณ ปี 2547 บ้านเราก็เจอปัญหาแมลงทำลายมะพร้าวที่รุนแรงมาครั้งหนึ่ง คือ แมลงดำหนาม ทำลายมะพร้าวทั้งในระยะหนอนและตัวเต็มวัยกัดกินผิวใบอ่อนมะพร้าว (ยอดกลมที่ยังไม่คลี่เต็มที่) ทำให้มีอาการใบไหม้สีน้ำตาลหากมีการระบาดมากจะเห็นต้นมะพร้าวที่ถูกทำลายมีใบขาวโพน หรือ เรียกว่าโรค "หัวหงอก"
ความเสียหายจะรุนแรงยิ่งขึ้นในสภาพพื้นที่แห้งแล้งติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน สาเหตุที่ทำให้เกิดการระบาดแพร่ไปในบริเวณกว้างสันนิษฐานว่ามาจากการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ ทำให้เอื้อต่อการเคลื่อนย้ายและการเพิ่มปริมาณประชากรอย่างรวดเร็วในแหล่งที่มีอาหารบริบูรณ์และปราศจากศัตรูธรรมชาติคอยควบคุม การควบคุมครั้งนั้นใช้การควบคุมโดยชีววิธี โดยนำเข้าแตนเบียนแมลงดำหนามมาจากเวียดนาม ช่วงนั้นไม่ได้มีโอกาสเห็นพื้นที่จริง แต่จากที่ได้รับการบอกเล่ามาก็รุนแรงมาก แต่แตนเบียนควบคุมได้ผลในเวลาต่อมา
หนอนหัวดำ ผู้รุกรานรอบใหม่น่าจะมาที่ไกลมาเจอที่เหมาะสม เลยแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทำความเสียหายรุนแรงจนทำให้มะพร้าวยืนต้นตายได้ ที่รุนแรงมากก็ที่ทับสะแก กุยบุรี การควบคุมก็ทำได้ยากเพราะเขาจะสร้างอุโมงมาห่อหุ้มไว้ ตอนนี้ยังไม่มีการควบคุมที่ได้ผล รอแตนเบียนชนิดที่มีประสิทธิภาพอยู่
พื้นที่สมุยกลับพบเหตุการณ์ที่แปลกมาก คือก่อนที่พวกเราจะเข้าไปทำงานก็คาดการณ์ว่าแมลงดำหนามคงระบาดรุนแรงมาก เพราะก่อนหน้านี้เราเข้าทำงานที่กุยบุรีที่นั่น หนอนหัวดำระบาด  ภาพที่เป็นประสบการณ์ก็บอกว่าคงเป็นหนอนหัวดำ แต่หลังจากสำรวจอย่างจริงจังแล้วพบว่าที่เกาะสมุยมีแมลงศัตรู 4 ชนิดระบาด รุนแรงแตกต่างกัน
แมลงดำหนามที่เงียบหายไปหลายปี แต่พอปี 2555 พบระบาดอีกครั้งที่เกาะสมุยแต่รุนแรงน้อยกว่าครั้งก่อน ตามคำบอกเล่าของคนที่เห็นทั้ง 2 เหตุการณ์ กลายเป็นแมลงที่พบทั่วไปทั้งเกาะ พบแทบทุกพื้นที่แต่ไม่รุนแรงยกเว้นทางดานตะวันออก และด้านใต้ของเกาะ หนอนหัวดำพบรุนแรงทางตอนเหนือของเกาะ ด้วงแรดพบทั่วไปแต่เขาไม่ได้ทำให้มะพร้าวตาย แต่เขาจะเปิดช่องทางให้ด้วงงวงเข้าทำลายซ้ำจนยอดหักและยืนต้นตายในที่สุด ซึ่งมะพร้าวที่โดนด้วงงวงทำลายจะพบมากหน้าเมือง มะเร็ด และบ่อผุด ซึ่งมีขยะอินทรีย์มาก เช่น มาจากชุมชน ปางช้าง บ่อนควาย ต้องใช้หลายวิธีร่วมกันในการควบคุม และคนในเกาะสมุยคงต้องช่วยกัน หน่วยงานของเราได้ส่งแตนเบียนเข้าไปในพื้นที่เป็นระยะและอยากให้กระจายในพื้นที่ที่เป็นปัญหา ไม่อยากให้ไปทิ้งกองอยู่ที่เกษตรอำเภอ หรือเทศบาล หากทุกท่านได้รู้ว่ากว่าพวกเราจะเลี้ยวแตนเบียนออกมาได้ต้องใช้ความพยายามมากขนาดไหน ต้องดูแลอย่างดี ประคบประหงม แต่ผู้รับไม่ทราบว่ากว่าจะเป็นแตนเบียน 1 ตัวต้องใช้ทรัพยากรมากขนาดไหน พวกเราเสียใจที่ได้รับคำบอกกล่าวว่าถูกทิ้งกอง  หรือปล่อยให้มดมากินอะไรทำนองนี้ การปล่อยรอบใหม่จึงอยากช่วยประชาสัมพันธ์ให้รู้ทั่วกัน เพื่อให้การควบคุมได้ผล

วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ภัยพิบัติจากปัญหาการเกษตร

ภัยพิบัติจากปัญหาการเกษตร คำนี้แทบไม่อยากเชื่อว่าจะมีได้ และกลายเป็นช่วงทางให้มีผู้หาผลประโยชน์ได้ ก่อนหน้าเราเคยเจอปัญหาเกี่ยวกับเพลี่ยแป้งมันสำปะหลังผนวกกับปีนั้นแล้งมากทำให้มันสำปะหลังผลผลิตไม่เพียงพอที่จะเข้าโรงงาน หลายพื้นที่ก็ใช้โอกาสนี้ในการสั่งซื้อสารเคมีจำนวนมหาสาร โดยไม่คำนึงถึงว่าสารเคมีนั้นจะมีการนำไปใช้อย่างถูกต้องหรือไม่ คำแนะนำให้นำไปแช่ท่อนพันธุ์ แต่ปรากฏว่ามีการนำไปใช้ในการฉีดพ่น และการฉีดพ่นนี้หากใช้ติดต่อกันก็จะทำให้เกิดการดื้อยาเช่นที่เคยเกิดขึ้นในข้าว เพลี้ยกระโดยสีน้ำตาลทนทางต่อยาฆ่าแมลงทุกชนิด
ยังโชคดีที่เพลี้ยแป้งมีแตนเบียนที่เก่งมาช่วยควบคุม
วันนี่เราคงเจอกับปัญหามะพร้าวราคาถูก ลูกละ 1-3 บาท  แมลงศัตรูมาก ต้นทุนเพิ่มแต่ราคากลับสวนทาง เกิดอะไรขึ้นกับพืชผลการเกษตรบ้านเรา
ตัวการน่าจะมาจากการใช้สารเคมีที่ไม่ถูกวิธี ต้องการผลเร็วแต่ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา ทำให้บางพื้นที่มีการใช้สารเคมีเจาะเข้าทางลำต้น สารอะไรก็ไม่รู้ ผลตกค้างมีแน่นอน เพราะสินค้าพวกน้ำกระทิถูกตีกลับ จากประเทศที่เขาให้ความสำคัญกับอาหารที่ประชาชนเขาใช้บริโภค ผลผลิตที่มีอยู่ในบ้านจึงถูกปฏิเสธ-แบบเหมารวม ซึ่งก็ไม่ยุติธรรม ทำให้มีการนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศมาทดแทนความต้องการ ทำให้มะพร้าวบ้านเราราคาถูกลง

บีทีปลอม
บีทีเป็นชีวภัณฑ์ที่หน่วยงานที่รับผิดชอบได้ให้คำแนะนำว่าสามารถฉีดพ่นในมะพร้าวที่มีการระบาดของหนอนหัวดำได้  ชีวภัณฑ์บีทีมี 2 ชนิดคือ Bacillus thuringiensis kurstaki และ B. thuringiensis aizawai
ใช้ในอัตรา ๘๐ กรัม/น้ำ ๒๐ ลิตร พ่นต้นละ ๕-๑๐ ลิตร  จำนวน ๓ ครั้ง ห่างกัน ๗-๑๐ วัน หลังการตัดทางใบที่ถูกทำลายแล้ว และเนื่องจากเป็นสารชีวภัณฑ์บีที การฉีดพ่นให้ได้ผลดีต้องฉีดพ่นในช่วงเช้าหรือเย็นเท่านั้น ถ้าฉีดพ่นช่วงแดดแรงก็จะทำให้บีทีตาย ประสิทธิภาพการควบคุมลดลง และที่สำคัญบีทีที่มีในท้องตลาดต้องดูที่มีใบอนุญาตถูกต้อง สามารุถนำเลขที่ไปตรวจสอบกับสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตรได้ และอายุต้องไม่เกิน 6 เดือนเพื่อให้แน่ใจว่ามีปริมาณบีทีตามที่กำหนด   ช่วงเดือนที่แล้วไปประจวบมา เกษตรกรบอกว่า อบต. หรือเทศบาลหลายพื้นที่ก็ดำเนินการตัดทางใบและฉีดพ่นบีทีกันแล้ว เราก็ได้แต่หวังว่าจะเป็นบีทีที่ไม่ปลอม ช่วงนั้นดูเหมือนการระบาดของหนอนหัวดำบางพื้นที่ก็รุนแรงขึ้น บางพื้นที่ก็ควบคุมได้ดีขึ้น แต่แมลงดำหนามระบาดรุนแรงลดลง   เจอเกษตรกรรายหนึ่งมีภาพลบกับหน่วยงานที่ใช้ประโยชน์จากความเดือดร้อนของเกษตรกร โดยมาสำรวจความเสียหาย-ถ่ายภาพ-แล้วนำข้อมูลไปเขียนของบประมาณ -แล้วแปลงที่ระบาดก็ไม่ได้กลับมาทำอะไร หรือทำให้เกิดการระบาดมากขึ้น เพราะว่าใช้วิธีการไม่ถูก ดูเหมือนรายนี้จะปิดประตูรวมทั้งออกแรงต้านด้วย เขาไปพึ่งพาน้ำหมักสมุนไพร-การบำรุงรักษาต้นให้แข็งแรง ซึ่งเรื่องหลังเห็นด้วยเพราะเท่าที่เห็นแปลงมะพร้าวที่กุยบุรี แปลงที่เกษตรกรให้การดูแล ให้น้ำบ้าง หรือมีพืชปลูกหลากหลายจะไม่ค่อยโดยทำลาย แปลงที่ดินชื้นๆ ถูกทำลายน้อยกว่า แต่จะทำอย่างไรกับพื้นที่ทีฝนทิ้งช่วงไปนานๆ   สารเคมีก็ถูกนำมาใช้อีกแล้วกับมะพร้าวด้วยคนภาครัฐ 2-3 วันก่อนก็ได้ทราบว่ามีการแนะนำวิธีการใหม่อีก แต่ก็ล่อแหลมต่อการนำไปใช้แต่ยังโชคดีที่ราคาแพง การเจาะลำต้นใส่สารเคมีถูกหยิบนำมาถกเถียงกันอีกแล้ว สารฆ่าแมลง emamectin benzoate ซึ่งใช้ในการเจาะลำต้นมะพร้าว ถึงแม้ในท้องตลาดจะมีหลายยี่ห้อ แต่ก็ไม่แน่ใจต่อผลตกค้างที่จะมีเนื้อมะพร้าว สารปนเปรื้อนอื่น ๆ ที่อาจจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค มีคำถามทำไมเกิดขึ้นมากมาย